สิ่งที่ควรทำหลังจากติดตั้ง CentOS 8 เสร็จ หลังจากที่เราติดตั้ง CentOS เสร็จแล้ว บางครั้งในขั้นตอนการติดตั้งเราได้ตั้งค่าบางอย่างผิดพลาดไป ก็สามารถตั้งค่าใหม่ได้ ซึ่งมีเครื่องมือต่างๆ มาช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น คำสั่ง, TUI และ GUI ก็สามารถเลิกใช้ได้ตามถนัด
ปิดการทํางานของ SELinux
Security-Enhanced Linux (SELinux) เป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มเติมเข้ามารวมกันเข้ากับเคอร์เนล ตั้งแต่เคอร์เนล 2.6.x เป็นต้นมา ซึ่งมีความยุ่งยากซับซ้อนในการใช้งานพอสมควร ถ้าไม่ปิดไปก่อนก็จะสร้างปัญหาให้กับการทำงานเป็นอย่างมาก จึงแนะนำให้ปิดไปก่อน
ปิดการทํางานของ SELinux โดยการแก้ไขไฟล์ /etc/selinux/config
โดยการเปลี่ยนจาก SELINUX=enforcing เป็น SELINUX=disabled ดังตัวอย่างด้านล่างนี้
หลังจากแก้ไข และบันทึกไฟล์เรียบร้อยแล้วให้รีสตาร์ทเครื่อง เป็นการปิดการทำงานของ SELinux เรียบร้อย
เชคสถานะการทำงานของ SELinux ด้วยคำสั่ง sestatus
[root@centos8 ~]# sestatus SELinux status: disabled
ปิดการทำงานของ firewalld
firewalld เป็นเซอร์วิสที่มีใน CentOS 7 ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยคอนฟิก firewall ได้ง่ายขึ้น firewalld ก็ยังคงทำงานผ่าน คำสั่งของ iptables ที่เชื่อมต่อไปยัง netfilter ในเคอร์เนลอีกทีหนึ่ง
หยุดการทํางานของ firewalld ด้วยคําสั่ง
[root@centos8 ~]# systemctl stop firewalld
ปิดการทำงานเมื่อบูทเครื่องมาใหม่
[root@centos8 ~]# systemctl disable firewalld
เมื่อใช้คำสั่งนี้แล้ว เวลาบูทเครื่องมาใหม่ทุกครั้ง firewalld จะไม่ทำงาน
***การปิดการทำงานของ SELinux และ firewalld ถ้าเครื่องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็ไม่ควรทำ ควรศึกษาการใช้งาน SELinux และ firewalld
อัพเดทโปรแกรม
หากต้องการให้โปรแกรมที่ติดตั้งเป็นปัจจุบันก็ควรอัพเดท ด้วยคำสั่ง dnf check-update
เพิ่มแหล่งดาวน์โหลดโปรแกรม
การติดตั้งระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการใดส่วนใหญ่ก็ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตในการติดตั้งโปรแกรมต่างๆ CentOS ก็จะมีแหล่งดาวน์โหลดโปรแกรมมาตรฐานที่มากับการติดตั้งอยู่ แต่ถ้าหากว่าโปรแกรม(Package) ไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานเราก็สามารถเพิ่มแหล่งดาวน์โหลด ดังต่อไปนี้
epel หรือ Extra Packages for Enterprise Linux repository
epel เป็นแหลงดาวน์โหลดที่ทำเป็นแพ็กเกจให้เราสามารติดตั้งได้เลย ด้วยคำสั่ง dnf install epel-release ดังภาพ
เมื่อติดตั้งเสร็จเราก็สามารถตรวจสอบแหล่งดาวนโหลดได้ด้วยคำสั่ง dnf repolist
จะเห็นได้ว่ามีแหล่งดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นมาเป็น epel
นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งดาวน์โหลดอื่นๆ อีก repoforge, remi, webtatic ลอง
ศึกษาเพิ่มเติมดูนะครับว่าแต่ละแหล่งดาวน์โหลดมีอะไรให้ดาวน์โหลดบ้าง ซึ่งเมื่อเราเพิ่มแหล่งดาวน์โหลดเหล่านี้เข้าไป เราสามารถติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมได้อีกมากมาย
ที่ไม่มีในแหล่งดาวน์โหลดปกติของ CentOS
การเปลี่ยนชื่อโฮสเนม
การเปลี่ยนชื่อเครื่องหรือชื่อโฮสเนมนั้น สามารถทำได้โดยใช้ nmtui แต่ผมไม่อยากแนะนำผมว่าใช้คำสั่ง hostnamectl ดีกว่า
hostnamectl set-hostname ชื่อที่ต้องการ ดังภาพ
ชื่อโฮสเนมที่ prompt จะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อ ปิด terminal แล้วเปิดใหม่
หรือให้สมบูรณ์ที่สุดก็รีสตาร์ทเครื่องใหม่
สิ่งที่ควรทำหลังจากติดตั้ง CentOS 8 ยังมีอีกค่อยมาอัพเดทครับ
อ้างอิง :